Proforma Invoice มักเป็นขั้นตอนแรกในชุดเอกสารทางการเงิน ที่ผู้ขายส่งไปยังผู้ซื้อก่อนการจัดส่งสินค้า หรือบริการ โดยทำหน้าที่เป็นใบขายเบื้องต้น โดยสรุปรายละเอียดของธุรกรรม รวมถึงคำอธิบายของสินค้า มูลค่า และเงื่อนไขสำคัญอื่นๆ ซึ่งแตกต่างจากใบแจ้งหนี้มาตรฐานที่ร้องขอการชำระเงิน Proforma Invoice นั้นเป็นใบเสนอราคาเริ่มต้น หรือประมาณการที่มอบให้กับผู้ซื้อมากกว่า โดยเน้นที่ข้อผูกพันของทั้งสองฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
โดยทั่วไปเอกสารนี้ ใช้สำหรับการทำธุรกรรมระหว่างประเทศ เพื่อให้ข้อมูลสำหรับวัตถุประสงค์ด้านศุลกากร และเพื่อร่างรายละเอียดเพื่อความสะดวกของผู้ซื้อ สิ่งสำคัญที่ควรทราบ คือ Proforma Invoice ไม่มีผลผูกพันทางกฎหมายในลักษณะเดียวกับใบแจ้งหนี้เชิงพาณิชย์ มันเป็นเพียงข้อตกลงในหลักการที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ใบกำกับสินค้าเสมือนมีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมการนำเข้า และส่งออก เนื่องจากสามารถทำหน้าที่เป็นใบแจ้งรายการสำหรับเจ้าหน้าที่ศุลกากรได้เช่นกัน
ภาพรวม Proforma Invoice
ในภาพรวมของการค้า และธุรกรรม Proforma Invoice เป็นเอกสารสำคัญที่ระบุถึงความมุ่งมั่นของผู้ขาย ในการจัดหาสินค้า หรือบริการให้กับผู้ซื้อในราคาที่ระบุ
คำนิยาม
Proforma Invoice เป็นการประมาณการที่ผู้ขายส่งไปยังผู้ซื้อล่วงหน้า ก่อนการจัดส่ง หรือการส่งมอบสินค้า โดยทั่วไปแล้ว จะมีรายละเอียดประเภท และปริมาณของสินค้าที่ขาย มูลค่า และข้อมูลธุรกรรมที่สำคัญอื่นๆ ต่างจากใบแจ้งหนี้มาตรฐาน ไม่ใช่ความต้องการในการชำระเงิน แต่เป็นเอกสารที่ไม่เป็นทางการ ซึ่งสรุปรายละเอียดของธุรกรรมในอนาคต
วัตถุประสงค์ และการใช้งาน
วัตถุประสงค์หลักของ Proforma Invoice คือ เพื่อให้ผู้ซื้อทราบการคาดการณ์เงื่อนไขการขาย และต้นทุน ผู้ขายออกเอกสารนี้ให้กับ
- ระบุสินค้า หรือบริการที่จะจัดหา
- นำเสนอต้นทุนที่คาดหวัง
- แจ้งค่าธรรมเนียม ภาษี หรือค่าจัดส่งเพิ่มเติม
การใช้ Proforma Invoice เป็นเรื่องปกติในการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งใช้เพื่อ
- แจ้งมูลค่าสินค้าเพื่อศุลกากร
- ช่วยให้ผู้ซื้อจัดเตรียมการชำระเงิน หรือเงินทุน
- ทำหน้าที่เป็นเอกสารเบื้องต้น จนกว่าจะออกใบแจ้งหนี้อย่างเป็นทางการ หลังการยืนยันคำสั่งซื้อ
ส่วนประกอบของ Proforma Invoice
Proforma Invoice ประกอบด้วยส่วนเฉพาะที่ระบุรายละเอียดของธุรกรรม ส่วนประกอบเหล่านี้ ช่วยให้เกิดความชัดเจนระหว่างผู้ขาย และลูกค้าก่อนที่จะสรุปการขาย
ข้อมูลผู้ขาย
- ชื่อผู้ขาย : ชื่อของบริษัท หรือบุคคลที่ขายสินค้า หรือบริการ
- ที่อยู่ : ที่อยู่จริง หรือที่อยู่ทางไปรษณีย์ของผู้ขาย สำหรับการติดต่อสื่อสาร
ข้อมูลลูกค้า
- ชื่อลูกค้า : ชื่อเต็มของนิติบุคคลที่ซื้อสินค้า หรือบริการ
- ที่อยู่ : ที่อยู่ของลูกค้า ซึ่งจำเป็นสำหรับการจัดส่ง และการเรียกเก็บเงิน
รายละเอียดสินค้า หรือบริการ
- คำอธิบาย : คำอธิบายที่ชัดเจน และรัดกุมของผลิตภัณฑ์ หรือบริการแต่ละรายการที่นำเสนอ
- ปริมาณ : จำนวนหน่วย หรือชั่วโมงที่ให้ไว้
- ตัวระบุ : เช่น SKU หรือรหัสบริการ เพื่อระบุรายการอย่างถูกต้อง
ราคา และข้อกำหนด
- ราคาต่อหน่วย : ต้นทุนต่อรายการ หรือชั่วโมงการบริการ
- ยอดรวมย่อย : ราคาก่อนภาษี ค่าจัดส่ง หรือค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม
- ภาษี และค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม : ภาษี ค่าธรรมเนียมการจัดส่ง หรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
- เงื่อนไขการชำระเงิน : ระบุความคาดหวังในการชำระเงินอย่างชัดเจน เช่น วันที่ครบกำหนด หรือข้อกำหนดในการฝากเงิน
การสร้างใบแจ้งหนี้ Pro Forma
เมื่อสร้างใบแจ้งหนี้ Pro Forma จะต้องให้ความสนใจกับองค์ประกอบหลัก และการจัดรูปแบบที่ถูกต้อง เพื่อให้แน่ใจว่ามีการสื่อสารข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมดอย่างชัดเจน
องค์ประกอบสำคัญ
ใบแจ้งหนี้ Pro Forma ต้องมีรายละเอียดที่สำคัญจำนวนหนึ่ง เพื่อให้สามารถบรรลุบทบาทได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งรวมถึงข้อมูลติดต่อของผู้ขาย ข้อมูลติดต่อของผู้ซื้อ รายการโดยละเอียดของผลิตภัณฑ์ หรือบริการ พร้อมต้นทุนที่เกี่ยวข้อง และเงื่อนไขการชำระเงิน การระบุต้นทุนทั้งหมด รวมถึงภาษีที่เกี่ยวข้อง ค่าจัดส่ง และค่าธรรมเนียมอื่นๆ ถือเป็นสิ่งสำคัญ สำหรับแต่ละรายการ หรือบริการ ควรระบุปริมาณ คำอธิบาย และต้นทุนแต่ละรายการอย่างชัดเจน
- วันที่ และเวลาของธุรกรรมที่คาดว่าจะเกิดขึ้น
- รายละเอียดการจัดส่ง เช่น วันที่ และวิธีการจัดส่งโดยประมาณ
- หมายเลขใบแจ้งหนี้ Pro Forma สำหรับการอ้างอิง
การจัดรูปแบบ
การจัดรูปแบบที่เหมาะสมช่วยให้แน่ใจว่าใบแจ้งหนี้ Pro Forma มีความเป็นมืออาชีพ และเข้าใจง่าย ตามธรรมเนียมแล้ว เอกสารควรมีรูปแบบที่สะอาดตา และตรงไปตรงมา โดยมีการแบ่งส่วนองค์ประกอบทั้งหมดอย่างชัดเจน
ส่วนหัวของใบแจ้งหนี้
- ควรแสดงคำว่า Pro Forma Invoice อย่างเด่นชัด เพื่อหลีกเลี่ยงความสับสนกับใบแจ้งหนี้มาตรฐาน
ตารางผลิตภัณฑ์/บริการ
ปริมาณ | คำอธิบาย | ราคาต่อหน่วย | ราคารวม |
ควรระบุแต่ละคอลัมน์ให้ชัดเจน เพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิด
ส่วนท้าย
- ส่วนท้ายควรย้ำจำนวนเงินที่ต้องชำระทั้งหมด และโปรดทราบว่าเป็นการประมาณการ
หมายเหตุที่ให้ข้อมูลสำคัญ เช่น “นี่ไม่ใช่ใบแจ้งหนี้” ควรพิมพ์ตัวเอียงเพื่อแยกออกจากส่วนเนื้อหาหลักของใบแจ้งหนี้
ข้อพิจารณาทางกฎหมาย
ในขอบเขตของการพาณิชย์ Proforma Invoice มีสถานะเป็นเอกสารเบื้องต้นมากกว่าจะเป็นการเรียกร้องชำระเงินขั้นสุดท้าย ผลกระทบทางกฎหมายที่มาจากลักษณะที่ไม่ผูกมัด และบทบาทของเอกสารนี้ในการค้าระหว่างประเทศ อาจส่งผลสำคัญต่อทั้งผู้ออก และผู้รับ
ลักษณะที่ไม่มีผลผูกพัน
โดยทั่วไป Proforma Invoice จะแสดงเจตนาที่จะส่งมอบผลิตภัณฑ์ หรือบริการ แต่ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นสัญญาที่ผูกพันตามกฎหมาย เอกสารดังกล่าวเป็นการประมาณการที่มักจะออกให้ล่วงหน้า ก่อนที่จะออกใบแจ้งหนี้ (invoice) แบบเป็นทางการ โดยจะระบุรายละเอียดค่าใช้จ่ายที่คาดไว้ และรายละเอียดของสินค้า หรือบริการ ผู้ซื้อควรทราบว่าผู้ขายไม่มีข้อผูกพันตามกฎหมาย ที่จะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไข หากสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป ก่อนที่จะมีการออกใบแจ้งหนี้ที่เป็นทางการ
- วัตถุประสงค์ : เพื่อให้มีการประมาณราคาล่วงหน้า
- ข้อผูกพันทางกฎหมาย : ไม่มี, ไม่สามารถบังคับใช้ตามสัญญาได้
ความสำคัญต่อการค้าระหว่างประเทศ
ในการค้าระหว่างประเทศ Proforma Invoice มีความจำเป็นสำหรับพิธีการศุลกากร เนื่องจากเป็นการแสดงมูลค่าของสินค้าที่เคลื่อนย้ายข้ามพรมแดน แม้ว่าใบแจ้งราคาดังกล่าวจะไม่ใช่ใบแจ้งหนี้เชิงพาณิชย์ หรือข้อตกลงที่มีผลผูกพันก็ตาม แต่เจ้าหน้าที่ศุลกากรมักจะต้องใช้เอกสารชนิดนี้ ในการประเมินอากร และภาษี เพื่อจะได้นำสินค้าเข้า หรือส่งออกได้อย่างถูกต้อง
- ข้อกำหนดของศุลกากร : ใช้สำหรับการประกาศมูลค่าสินค้า
- อากร และภาษี : ช่วยในการประเมินค่าธรรมเนียมต่างๆ ให้เหมาะสม
ผู้ซื้อ และผู้ขายควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าข้อมูลที่ให้ไว้ใน Proforma Invoice ตรงกับเอกสารการขายฉบับสุดท้าย เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่ยุ่งยากกับเจ้าหน้าที่ศุลกากร หากมีความคลาดเคลื่อน อาจนำไปสู่ความล่าช้า หรือปัญหาทางกฎหมายในระหว่างขั้นตอนการผ่านพิธีการศุลกากร
Pro Forma Invoice vs. Commercial Invoice
ในการค้าระหว่างประเทศ การใช้ใบแจ้งราคา (Pro Forma Invoice) และใบกำกับสินค้า (Commercial Invoice) มีความสำคัญที่แตกต่างกันสำหรับทั้งผู้ซื้อ และผู้ขายในแง่ของการเจรจาต่อรอง การชำระเงิน และการจัดส่ง
ความแตกต่างที่สำคัญ
- วัตถุประสงค์ : Pro Forma Invoice มักใช้เพื่อให้ประมาณการเบื้องต้นของราคาสินค้า หรือบริการก่อนการส่งมอบ ในทางกลับกัน Commercial Invoice ถือเป็นการร้องขอการชำระเงินอย่างเป็นทางการหลังจากมีการส่งมอบสินค้า หรือบริการเรียบร้อยแล้ว
- สถานะทางกฎหมาย : Pro Forma Invoice ไม่มีสถานะทางกฎหมาย และใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเป็นหลัก ในทางกลับกัน Commercial Invoice เป็นเอกสารที่มีผลผูกพันตามกฎหมาย ซึ่งแสดงรายละเอียดที่จำเป็นสำหรับการผ่านพิธีการศุลกากร และการชำระเงิน
- รายละเอียดที่ระบุ : โดยทั่วไป Pro Forma Invoice จะมีการระบุประเภท และปริมาณของสินค้า ราคาต่อหน่วย และเงื่อนไขการขาย ในขณะเดียวกัน รายละเอียดใน Commercial Invoice จะครอบคลุมมากกว่านั้น รวมถึงข้อมูลของผู้ซื้อ และผู้ขาย รหัสระบบสอดคล้องกัน (HS codes) ประเทศต้นกำเนิด และเงื่อนไขการขายที่เจาะจงมากขึ้น
- การใช้ในการจัดส่ง : Commercial Invoice มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการจัดส่งระหว่างประเทศ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ศุลกากรใช้เพื่อกำหนดอากร และภาษีที่เกี่ยวข้อง ส่วน Pro Forma Invoice จะไม่ถูกใช้โดยศุลกากร
ควรใช้เมื่อใด
- Pro Forma Invoice : ควรใช้ใบแจ้งราคานี้ในช่วงเริ่มต้นของธุรกรรมการขาย มีความสำคัญอย่างยิ่งในช่วงของการเจรจาต่อรอง ช่วยให้ผู้ซื้อสามารถจัดหาเงินทุน หรือขอหนังสือค้ำประกัน (Letter of Credit) อีกทั้งยังเป็นวิธีที่ผู้ขายจะแสดงความมุ่งมั่นในการขายสินค้า ก่อนที่ใบสั่งซื้อจะได้รับการสรุป
- Commercial Invoice : หลังจากผู้ซื้อ และผู้ขายตกลงการขายแล้ว จะมีการออก Commercial Invoice ซึ่งถือเป็นสัญญาขั้นสุดท้าย และมีความจำเป็นสำหรับขั้นตอนการส่งออก และนำเข้า การอำนวยความสะดวกด้านการชำระเงิน และเอกสารทางกฎหมายของการขาย ถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เมื่อสินค้าพร้อมสำหรับการจัดส่งระหว่างประเทศ
การจัดการการชำระเงิน และการจัดส่ง
เมื่อใช้ใบแจ้งหนี้ชั่วคราว (pro forma invoice) ผู้ขายจะกำหนดเงื่อนไขการชำระเงิน และกำหนดการจัดส่งโดยละเอียด ซึ่งมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการดำเนินธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศที่ราบรื่น
การชำระเงินล่วงหน้า
ใบแจ้งหนี้ชั่วคราว มักจะต้องมีการชำระเงินล่วงหน้าจากผู้ซื้อ เพื่อเริ่มต้นคำสั่งซื้อ การชำระเงินนี้มักจะจำเป็นในการรักษาความปลอดภัยของสินค้า หรือบริการ และเพื่อแสดงความมุ่งมั่นของผู้ซื้อ ตัวอย่างเช่น ผู้ขายอาจขอชำระเงินล่วงหน้า 50% ก่อนดำเนินการผลิต หรือจัดส่งสินค้า ความเข้าใจในใบแจ้งหนี้ชั่วคราว : คู่มือฉบับสมบูรณ์ | BILL เน้นย้ำถึงบทบาทของใบแจ้งหนี้ดังกล่าว ในการกำหนดข้อกำหนดการชำระเงินล่วงหน้าอย่างชัดเจน
กำหนดการจัดส่ง
เมื่อตกลงเงื่อนไขการชำระเงินแล้ว กำหนดการจัดส่งจะถูกระบุไว้ ซึ่งรวมถึงวันที่จัดส่งที่คาดไว้ และรายละเอียดที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการขนส่งสินค้า ความถูกต้องของข้อมูลนี้เป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ซื้อในการวางแผนรับสินค้า ใบแจ้งหนี้ชั่วคราวทำหน้าที่เป็นข้อตกลงที่เป็นลายลักษณ์อักษร ที่สามารถช่วยหลีกเลี่ยงข้อพิพาทได้ โดยกำหนดความคาดหวังที่ชัดเจนเกี่ยวกับเวลาการจัดส่ง ตามรายละเอียดในคำแนะนำด้านใบแจ้งหนี้ชั่วคราว (Pro Forma) – ฝ่ายบริหารการค้าระหว่างประเทศ
Pro Forma Invoice ในระบบบัญชี
Invoice รูปแบบ Pro Forma มีบทบาทสำคัญในด้านบัญชี เพราะแสดงโครงร่างของธุรกรรมทางการเงินที่อาจเกิดขึ้น พร้อมช่วยเหลือในด้านการจัดทำงบประมาณ และการคาดการณ์ทางธุรกิจ
การจัดทำงบประมาณ และการคาดการณ์
Invoice ในรูปแบบ Pro Forma ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ ประเมินยอดขาย และมองเห็นกระแสเงินสดก่อนที่การขายที่แท้จริงจะเกิดขึ้น Invoice เหล่านี้จะทำให้บริษัทสามารถคาดการณ์รายได้ และช่วยประกอบการตัดสินใจอย่างมีข้อมูลในการจัดสรรทรัพยากรต่างๆ ด้วยการคาดการณ์ต้นทุน และยอดขายในอนาคต ธุรกิจจะสามารถจัดทำงบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ และกำหนดเป้าหมายทางการเงินที่เป็นจริงได้
ผลกระทบต่องบการเงิน
แม้ว่า Pro Forma Invoice จะไม่ส่งผลโดยตรงต่องบการเงินในทันที เนื่องจากรายการนั้นยังไม่ถูกบันทึกเป็นรายได้ แต่ Invoice เหล่านี้เป็นเสมือนคำมั่น และอาจส่งผลต่อผลลัพธ์ทางการเงินในอนาคต นักบัญชีสามารถนำข้อมูลเชิงลึกต่างๆ จาก Pro Forma Invoice มาใช้คาดการณ์รายได้ในอนาคต
ซึ่งข้อมูลนี้อาจปรากฏในรายงานสถานะทางการเงินของบริษัท ข้อสำคัญ คือ Pro Forma Invoice จะต้องได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียด เพื่อให้มั่นใจว่า เมื่อมีการทำธุรกรรมจริง ที่สรุปแล้ว ข้อมูลทั้งหมดจะสะท้อนอย่างถูกต้องในงบการเงินอย่างเป็นทางการ
การใช้ Template และซอฟต์แวร์
การสร้างใบแจ้งหนี้ชั่วคราว (pro forma invoice) สามารถทำได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น โดยใช้ Template และซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเพื่อจุดประสงค์นี้โดยเฉพาะ เครื่องมือเหล่านี้สามารถช่วยลดข้อผิดพลาดที่เกิดจากการป้อนข้อมูลด้วยมือ และเพิ่มประสิทธิภาพได้
ประโยชน์ของระบบอัตโนมัติ
- ความถูกต้องแม่นยำ : Template แบบอัตโนมัติ ช่วยลดความเสี่ยงของข้อผิดพลาด ประกันว่าใบแจ้งหนี้ชั่วคราวจะถูกต้อง และดูเป็นมืออาชีพ
- ประหยัดเวลา : ระบบอัตโนมัติช่วยให้สร้างใบแจ้งหนี้ได้เร็วขึ้น ทำให้ธุรกิจมุ่งเน้นไปที่งานสำคัญอื่นๆ
- ความสม่ำเสมอ : การใช้ Template ช่วยรับประกันรูปแบบใบแจ้งหนี้ที่สอดคล้องกัน ซึ่งช่วยในการสร้างภาพลักษณ์ทางธุรกิจที่เป็นมืออาชีพ
- รองรับการขยายตัวทางธุรกิจ : เมื่อการดำเนินธุรกิจเติบโตขึ้น ระบบอัตโนมัติสามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างง่ายดาย รองรับปริมาณใบแจ้งหนี้ที่เพิ่มขึ้น โดยไม่ลดทอนคุณภาพ
การเลือกเครื่องมือที่เหมาะสม
- การปรับแต่ง : มองหาซอฟต์แวร์ที่นำเสนอ Template ที่ปรับแต่งได้ เพื่อให้สอดคล้องกับตราสินค้าของบริษัทคุณ
- ความสามารถในการทำงานร่วมกัน : ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเครื่องมือต่างๆ สามารถใช้งานร่วมกับระบบธุรกิจอื่นๆ ได้ เพื่อการผสานรวมที่ราบรื่น
- ความง่ายในการใช้งาน : เลือกซอฟต์แวร์ที่ใช้งานง่าย บุคลากรสามารถสร้างใบแจ้งหนี้ได้ โดยฝึกอบรมเพียงเล็กน้อย
- การสนับสนุน และการอัปเดต : เลือกเครื่องมือที่ให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง และการอัปเดตตามปกติ เพื่อตอบสนองต่อข้อบังคับที่เปลี่ยนแปลงไป หรือความต้องการทางธุรกิจ
การใช้เครื่องมือเหล่านี้โดยเหมาะสม สามารถเพิ่มประสิทธิภาพ และความน่าเชื่อถือของการทำธุรกรรมทางการเงิน ที่เกี่ยวข้องกับการออกใบแจ้งหนี้ชั่วคราว
บทสรุป
ใบแจ้งราคา (pro forma invoice) คือเอกสารแสดงรายละเอียดการขายเบื้องต้น ที่ส่งให้ผู้ซื้อก่อนการขนส่ง หรือส่งมอบสินค้า โดยทั่วไปจะมีการระบุผลิตภัณฑ์ หรือบริการที่ขาย ราคาที่เกี่ยวข้อง และเงื่อนไขการชำระเงิน ใบแจ้งราคานี้ไม่ใช่การเรียกร้องให้ชำระเงิน แต่เป็นข้อตกลงเกี่ยวกับเงื่อนไข และรายละเอียดของการขายมากกว่า
ธุรกิจต่างๆ มักใช้เอกสารนี้ เพื่อแจ้งมูลค่าสินค้า สำหรับพิธีการศุลกากร ในกรณีที่มีการขนส่งระหว่างประเทศ หรือเพื่อให้ผู้ซื้อมีโอกาสตรวจสอบรายละเอียดของคำสั่งซื้อ ก่อนออกใบแจ้งหนี้ขั้นสุดท้าย สิ่งสำคัญคือ การระบุวลี “ใบแจ้งราคา” (Pro forma Invoice) อย่างชัดเจนบนเอกสาร เพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดทางกฎหมายที่อาจเกิดขึ้น
เพื่อให้แน่ใจว่าสอดคล้องกับกฎหมาย ใบแจ้งหนี้ (invoice) จะต้องตรงตามข้อกำหนดทางกฎหมายบางประการ ซึ่งจะช่วยป้องกันปัญหาต่างๆ เช่น ความล่าช้าของศุลกากร หรือค่าปรับได้ ดังนั้นจึงเป็นประโยชน์ที่จะใช้เทมเพลต หรือซอฟต์แวร์ ที่ช่วยสร้างเอกสารที่เหมาะสม
ตัวอย่างเช่น ผู้เชี่ยวชาญอาจพบข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับการสร้างใบแจ้งราคาแบบละเอียด (pro forma invoice) ซึ่งรวมถึงองค์ประกอบที่จำเป็น และข้อควรพิจารณาทางกฎหมายบนแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Lexware หรือรับความช่วยเหลือด้านการใช้งานจริงจากบริการอย่าง sevDesk
ท้ายที่สุด ใบแจ้งราคา (pro forma invoice) ที่ร่างไว้อย่างถูกต้อง ถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยส่งเสริมความโปร่งใส และความเข้าใจระหว่างผู้ขาย และผู้ซื้อ สร้างรากฐานสำหรับการทำธุรกรรมที่ราบรื่น และความไว้วางใจในความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่ต่อเนื่อง