ตามรอย 5 สินค้าไวรัลใน TikTok สู่แหล่งการผลิตที่อี้อู (ต้นทุนหลักสิบบาท)

ตามรอย 5 สินค้าไวรัลใน TikTok สู่แหล่งการผลิตที่อี้อู (ต้นทุนหลักสิบบาท)

ประเด็นสำคัญ

  • สินค้าไวรัลบน TikTok จำนวนมาก มีต้นกำเนิดมาจากตลาดค้าส่ง ในเมืองอี้อู
  • ต้นทุนจากแหล่งผลิตโดยตรง อาจต่ำเพียงชิ้นละไม่กี่สิบบาท
  • การรู้วิธีสืบค้น และจัดหาสินค้าจากต้นตอ จะช่วยเปิดโอกาส ในการทำกำไรที่สูงขึ้น

สินค้าไวรัลบน TikTok ที่ดูเหมือนโด่งดังขึ้นมาชั่วข้ามคืนนั้น แท้จริงแล้ว หลายชิ้นมีต้นกำเนิดมาจากที่เดียวกัน นั่น คือ เมืองอี้อู (Yiwu) ในประเทศจีน เมืองที่ได้ชื่อว่า เป็นศูนย์กลางค้าส่งที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งนี้ เป็นแหล่งรวมสินค้าทุกประเภท ตั้งแต่อุปกรณ์แฟชั่น ไปจนถึงของใช้ในบ้าน ในราคาต้นทุนที่ต่ำอย่างน่าประหลาดใจ สินค้าอินเทรนด์หลายรายการ ที่ถูกนำไปขายออนไลน์ ในราคาสูง ความจริงแล้ว มีต้นทุนจากอี้อู เพียงชิ้นละไม่กี่สิบบาทเท่านั้น

เมื่อไล่ตามห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) จะเห็นภาพชัดเจนว่า สินค้าเหล่านี้ เดินทางจากตลาดค้าส่ง ไปสู่หน้าร้านออนไลน์ทั่วโลกได้อย่างไร ย่านการค้าขนาดใหญ่ และเครือข่ายซัพพลายเออร์ที่กว้างขวางของอี้อู ทำให้สามารถสืบย้อนสินค้ายอดนิยมบน TikTok กลับไปยังต้นตอได้โดยตรง การเชื่อมโยงนี้ ไม่เพียงแต่เปิดเผยให้เห็นถึงต้นทุนที่แท้จริง แต่ยังแสดงให้เห็นถึ งโครงสร้างที่ขับเคลื่อน การแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ของสินค้าเหล่านี้ ด้วย

การสำรวจความเชื่อมโยงเหล่านี้ ให้ข้อมูลเชิงปฏิบัติ ที่เป็นประโยชน์ สำหรับทุกคนที่สนใจว่า สินค้าไวรัลเติบโตอย่างรวดเร็วได้อย่างไร นอกจากนี้ ยังชี้ให้เห็นถึงกลยุทธ์ในการจัดหาสินค้าโดยตรง การทำความเข้าใจส่วนต่างของราคา และการมองหาโอกาสทางธุรกิจ ก่อนที่เทรนด์จะไปถึงจุดสูงสุด

สารบัญเนื้อหา

1. วิธีการแกะรอยสินค้าไวรัลใน TikTok ว่ามาจากอี้อูได้อย่างไร

2. เจาะลึก 5 สินค้าดังใน TikTok และแหล่งค้าส่งในอี้อู

3. ทำความเข้าใจตลาดอี้อู (Yiwu Market) : โครงสร้าง และโซนสินค้าสำคัญ

4. การวิเคราะห์ต้นทุน : การจัดหาสินค้าในราคาหลักสิบ

5. เคล็ดลับ และกลยุทธ์สำหรับการจัดหาสินค้าจากอี้อู (Yiwu) ให้ประสบความสำเร็จ

วิธีการแกะรอยสินค้าไวรัลใน TikTok ว่ามาจากอี้อูได้อย่างไร

สินค้าหลายชนิด ที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วใน TikTok สามารถสืบย้อนกลับไปได้ถึงเมืองอี้อู (Yiwu) ซึ่งเป็นเมืองในประเทศจีน ที่โด่งดังเรื่องตลาดค้าส่งขนาดมหึมา การแกะรอยสินค้าเหล่านี้ ต้องอาศัยการสังเกตเทรนด์ ที่กำลังมาแรงอย่างรวดเร็ว การระบุแหล่งผลิต และการใช้ช่องทางที่ถูกต้อง เพื่อติดต่อกับซัพพลายเออร์

ตามรอย 5 สินค้าไวรัลใน TikTok สู่แหล่งการผลิตที่อี้อู (ต้นทุนหลักสิบบาท)

การระบุสินค้าที่กำลังเป็นกระแสใน TikTok

ขั้นตอนแรกในการแกะรอยต้นกำเนิดสินค้า คือ การมองให้ออกว่า อะไรกำลังเป็นกระแส เทรนด์ใน TikTok มักเกิดขึ้นจากวิดีโอสั้นๆ ที่เน้นนำเสนอคุณสมบัติพิเศษ ราคาที่จับต้องได้ หรือความแปลกใหม่ สินค้าที่ปรากฏซ้ำๆ ในคอนเทนต์ที่ผู้ใช้ทั่วไปสร้างขึ้นเอง (User-Generated Content) มักเป็นสัญญาณของความต้องการที่สูง

แพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูล เช่น Shoplus จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับการจัดอันดับสินค้า ข้อมูลประชากรของผู้ชม และรูปแบบการเติบโต สิ่งนี้ช่วยแยกแยะระหว่างกระแสที่มาไวไปไว (Fad) กับสินค้าที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง

เหล่าครีเอเตอร์ และผู้ค้าปลีก (Reseller) มักจะมองหาแฮชแท็กอย่าง #TikTokMadeMeBuyIt (TikTok ทำฉันเสียเงิน) หรือ #viralproducts (สินค้าไวรัล) เพื่อดูว่า สินค้าใด สร้างการมีส่วนร่วมได้อย่างสม่ำเสมอ การติดตามยอดวิว ยอดแชร์ และความคิดเห็น จะช่วยให้เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นว่า สินค้านั้น กำลังมาแรง หรือกำลังแผ่วลง

ด้วยการผสมผสานการสังเกตคอนเทนต์ไวรัล เข้ากับเครื่องมือที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล ธุรกิจต่างๆ จะสามารถจัดลำดับความสำคัญของสินค้า ที่ควรค่าแก่การสืบค้นต่อไปได้

วิธีการแกะรอยต้นตอของสินค้า

เมื่อระบุสินค้าได้แล้ว ขั้นตอนต่อไป คือ การค้นหาแหล่งที่มา สินค้าราคาประหยัดที่กลายเป็นไวรัลหลายชนิด เช่น เครื่องประดับ อุปกรณ์แก็ดเจ็ต และรองเท้า ล้วนมีต้นกำเนิดจากตลาดอี้อู (Yiwu Market) ตลาดแห่งนี้ เป็นหนึ่งในศูนย์กลางค้าส่งที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีซัพพลายเออร์ที่เชี่ยวชาญด้านสินค้าเบ็ดเตล็ด

ผู้ซื้อ มักจะเปรียบเทียบคุณสมบัติสินค้าที่เห็นใน TikTok กับสินค้าในแคตตาล็อกของซัพพลายเออร์ในอี้อู การจับคู่รายละเอียดบรรจุภัณฑ์ โลโก้ หรือดีไซน์ สามารถช่วยจำกัดวงผู้ผลิตให้แคบลงได้

บางคนใช้วิธีพูดคุยโดยตรงกับผู้ขายบนแพลตฟอร์มอย่าง Alibaba หรือ 1688 เพื่อยืนยันว่า สินค้าตรงกับสิ่งที่กำลังเผยแพร่อยู่ในโลกออนไลน์ หรือไม่ ในขณะที่คนอื่นๆ จะอาศัยการดูจำนวนการสั่งซื้อขั้นต่ำ (MOQs) และช่วงราคา เพื่อตัดสินว่า สินค้านั้นเข้าข่ายสินค้าไวรัล หรือไม่

ขนาดที่ใหญ่ และความหลากหลายของอี้อู ทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดศูนย์กลางในการแกะรอยสินค้า ที่ขายกันในราคาเพียงหลักสิบบาท

บทบาทของตัวแทนจัดหาสินค้า (Sourcing Agents) และแพลตฟอร์ม

ตัวแทนจัดหาสินค้า (Sourcing Agents) มีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงผู้ซื้อเข้ากับสินค้าในอี้อู ตัวแทนเหล่านี้ จะเดินทางไปที่ตลาดอี้อู, เจรจากับซัพพลายเออร์, และตรวจสอบคุณภาพสินค้า ความรู้ในพื้นที่ของพวกเขาช่วยลดความเสี่ยง เช่น การได้ของปลอม หรือมาตรฐานการผลิตที่ไม่สม่ำเสมอ

แพลตฟอร์มที่ติดตามเทรนด์ใน TikTok มักจะเชื่อมโยงกับบริการจัดหาสินค้าด้วย ตัวอย่างเช่น แพลตฟอร์มเหล่านี้ จะชี้เป้าว่า ซัพพลายเออร์ในอี้อูรายใด ที่รับยอดสั่งซื้อขั้นต่ำจำนวนน้อย (Low MOQs) และมีรอบการผลิตที่สั้น ซึ่งบางครั้งเร็วถึง 2-3 สัปดาห์

ตัวแทนมักจะให้บริการเสริมอื่นๆ เช่น การตรวจสอบคุณภาพ (QC), การประสานงานด้านโลจิสติกส์ และการสนับสนุนด้านการแปลภาษา สิ่งนี้ช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็ก หรือผู้ที่ทำ Dropshipping (ตัวแทนจำหน่ายที่ไม่สต็อกสินค้า) สามารถเข้าถึงสินค้าได้ง่ายขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องติดต่อกับโรงงานโดยตรง

ด้วยการผสมผสานแพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูล เข้ากับความเชี่ยวชาญในการจัดหาสินค้าหน้างานจริง ธุรกิจต่างๆ จึงสามารถแกะรอยสินค้าที่ขับเคลื่อน ด้วยกระแส TikTok กลับไปจนถึงซัพพลายเออร์ในอี้อูได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เจาะลึก 5 สินค้าดังใน TikTok และแหล่งค้าส่งในอี้อู

ตลาดค้าส่งในอี้อู (Yiwu) เป็นแหล่งจำหน่ายสินค้าราคาถูก หลากหลายประเภท ที่มักปรากฏในกระแสไวรัลออนไลน์ สินค้าเหล่านี้ หลายรายการมีต้นทุนเพียงไม่กี่สิบบาทต่อชิ้น ทำให้ดึงดูดใจผู้ค้ารายย่อย ที่ต้องการหมุนเวียนสินค้าเร็ว และมีสต็อกสินค้าราคาไม่แพง

หูฟังไร้สาย : แหล่งที่มา และราคา

หูฟังไร้สาย ยังคงเป็นหนึ่งในสินค้าที่มีการสั่งซื้อจากอี้อูบ่อยที่สุด ผู้ค้าในโซนอิเล็กทรอนิกส์ มีสินค้าหลายรุ่น ที่รูปลักษณ์ภายนอกคล้ายกับแบรนด์ดังระดับโลก แต่มีราคาถูกกว่ามาก รุ่นพื้นฐานสามารถหาซื้อได้ในราคา 40–70 บาทต่อคู่ เมื่อซื้อในปริมาณมาก (ซื้อแบบยกโหล)

คุณภาพเสียง อยู่ในระดับที่ใช้งานได้ แต่ไม่ถึงขั้นพรีเมียม ผู้ค้าหลายรายรายงานว่าบรรจุภัณฑ์ และแบรนด์สามารถปรับแต่งได้ (ทำ OEM ได้) ซึ่งช่วยให้ผู้ค้ารายย่อย สามารถนำสินค้าตัวเดียวกัน ไปทำการตลาดในชื่อแบรนด์ที่แตกต่างกันได้

ผู้ซื้อควรทราบว่า การรับประกันสินค้ามีจำกัด ซัพพลายเออร์ในอี้อูส่วนใหญ่ เน้นการขายในปริมาณมาก มากกว่าการบริการหลังการขาย ทำให้หูฟังเหล่านี้ เหมาะสำหรับการนำไปขายต่อในระยะสั้นๆ แต่ไม่ค่อยเหมาะ สำหรับตลาดที่มีมาตรฐานการคุ้มครองผู้บริโภคที่เข้มงวด

กระเป๋าแฟชั่น และเครื่องประดับตามกระแส

อี้อู มีชื่อเสียงอย่างมากในเรื่องกระเป๋า และเครื่องประดับที่ตามเทรนด์แฟชั่นตามฤดูกาล กระเป๋าถือใบเล็ก กระเป๋าผ้า (Tote bags) และเป้สะพายหลังขนาดเล็ก เป็นสินค้าทั่วไป ที่มักปรากฏในวิดีโอ “เห่อของ” (Haul videos) ใน TikTok ราคาสินค้าดีไซน์พื้นฐาน มักเริ่มต้นที่ 50–90 บาทต่อชิ้น เมื่อซื้อในปริมาณมาก

โรงงานต่างๆ มักจะอัปเดตสไตล์สินค้าให้ทันกระแสโลกอยู่เสมอ วัสดุมีตั้งแต่หนังสังเคราะห์ ไปจนถึงเนื้อผ้าที่มีน้ำหนักเบา ช่วยให้ผู้ซื้อ สามารถเลือกสินค้าได้ตามงบประมาณ และกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย

เครื่องประดับ เช่น เข็มขัด กระเป๋าสตางค์ และเครื่องประดับแฟชั่น (Costume jewelry) มักจะขายอยู่ในแผงเดียวกัน ทำให้ผู้ค้ารายย่อย สามารถเพิ่มความหลากหลายของสินค้าในร้านได้ง่าย แม้ว่าคุณภาพอาจมีความแตกต่างกันไปบ้าง แต่ต้นทุนที่ต่ำมาก ก็ทำให้สินค้าเหล่านี้ น่าสนใจ สำหรับการนำไปทดลองตลาดในร้านค้าออนไลน์

อุปกรณ์จัดปาร์ตี้ และเครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร

อี้อู เป็นผู้จัดหาสินค้า สำหรับงานปาร์ตี้รายใหญ่ของโลก ซึ่งรวมถึงลูกโป่ง ภาชนะที่ใช้แล้วทิ้ง และของตกแต่งตามธีมต่างๆ สินค้าเหล่านี้ มีราคาไม่แพง โดยชุดถ้วยพลาสติก หรือกระดาษแบบแพ็กใหญ่ มีราคาอยู่ที่ 10–20 บาทต่อชุด ส่วนลูกโป่ง และป้ายประดับ มักมีราคาถูกยิ่งกว่านั้น เมื่อสั่งในปริมาณมากๆ

สินค้าตามฤดูกาล เช่น ของธีมคริสต์มาส ฮาโลวีน หรือวันเกิด จะมีการหมุนเวียนเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้ขาย สามารถอัปเดตสต็อกสินค้า ให้มีดีไซน์ที่ทันสมัยอยู่เสมอ

สินค้าเหล่านี้ ส่วนใหญ่มีน้ำหนักเบา และขนส่งง่าย ซึ่งช่วยให้ต้นทุนด้านโลจิสติกส์ต่ำ อย่างไรก็ตาม ผู้ซื้อควรตรวจสอบการปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัย และมาตรฐานการสัมผัสอาหาร หากจะนำไปขายในตลาด ที่มีการควบคุมมาตรฐานอย่างเข้มงวด

อุปกรณ์เสริมมือถือยอดนิยม

อุปกรณ์เสริมมือถือ ที่มาจากอี้อู มีทั้งเคส สายชาร์จ ขาตั้ง และฟิล์มกันรอย ราคาแข่งขันกันสูงมาก โดยเคสซิลิโคนมักมีต้นทุนอยู่ที่ 15–25 บาทต่อชิ้นในราคาส่ง

ซัพพลายเออร์ มักจะมีดีไซน์ สำหรับสมาร์ทโฟน ทั้งรุ่นเก่า และรุ่นใหม่ นอกจากนี้ ยังมีการพิมพ์ลาย และทำบรรจุภัณฑ์ตามสั่ง (Custom) ซึ่งช่วยให้ผู้ขาย สร้างความแตกต่าง ในตลาดที่มีการแข่งขันสูงได้

สายชาร์จ และอะแดปเตอร์ มีจำหน่ายอยู่ทั่วไป แต่มีความทนทานแตกต่างกัน ผู้ซื้อ มักจะทดสอบสั่งซื้อในปริมาณน้อย ก่อนที่จะตัดสินใจสั่งซื้อล็อตใหญ่ อุปกรณ์เสริมเหล่านี้ ยังคงเป็นที่ต้องการของตลาดอยู่ตลอดเวลา ทำให้เป็นสินค้าที่ไว้ใจได้ สำหรับผู้ค้ารายย่อย ที่ต้องการยอดขายที่มั่นคง

ทำความเข้าใจตลาดอี้อู (Yiwu Market) : โครงสร้าง และโซนสินค้าสำคัญ

ตลาดอี้อู (Yiwu Market) ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการค้าส่งขนาดมหึมา ที่แบ่งออกเป็นย่านเฉพาะทาง โดยแต่ละย่าน จะเน้นไปที่ประเภทสินค้าที่แตกต่างกัน ผู้ซื้อ สามารถประหยัดเวลา และต้นทุนได้ หากเข้าใจว่า ตลาดมีการจัดระเบียบอย่างไร และรู้วิธีค้นหาซัพพลายเออร์ที่น่าเชื่อถือภาย ในตลาดแห่งนี้

ภาพรวมของย่านต่างๆ ในตลาดอี้อู

เมืองการค้านานาชาติอี้อู (Yiwu International Trade City) หรือที่มักเรียกกันว่า ตลาดฝูเถียน (Futian Market) แบ่งออกเป็น 5 ย่านหลัก (District) แต่ละย่านมีจุดเน้นที่ชัดเจน ทำให้ผู้ซื้อค้นหาสินค้าขายส่ง ที่ต้องการได้ง่ายขึ้น

  • ย่านที่ 1 (District 1) : เครื่องประดับแฟชั่น, จิวเวลรี่, กระเป๋า และผลิตภัณฑ์ความงาม
  • ย่านที่ 2 (District 2) : ของใช้ในบ้าน, เครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร, เครื่องครัว และของใช้ในชีวิตประจำวัน
  • ย่านที่ 3 (District 3) : เครื่องเขียน, ของเล่น, อุปกรณ์จัดปาร์ตี้ และของตกแต่งตามเทศกาล
  • ย่านที่ 4 (District 4) : เครื่องใช้ไฟฟ้า, อุปกรณ์เสริมมือถือ, หูฟังไร้สาย และเครื่องใช้ต่างๆ
  • ย่านที่ 5 (District 5) : ฮาร์ดแวร์, คีม, เครื่องมือช่าง และสินค้าอุตสาหกรรม

โครงสร้างนี้ ช่วยให้ผู้นำเข้า สามารถมุ่งไปที่พื้นที่ ที่ถูกต้องได้ โดยไม่เสียเวลา ตัวอย่างเช่น ผู้ค้าปลีกที่มองหาสินค้าแฟชั่นที่มาไวไปไว (Fast Fashion) ควรมุ่งตรงไปที่ย่านที่ 1 ในขณะที่ร้านค้าที่เชี่ยวชาญด้านของตกแต่งบ้าน และเครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร ควรเน้นไปที่ย่านที่ 2

การสำรวจหมวดหมู่สินค้า

สินค้าในอี้อู มีความหลากหลาย ครอบคลุมตั้งแต่ของใช้ในบ้านชิ้นเล็กๆ ไปจนถึงเครื่องใช้ไฟฟ้า การจัดผังตลาด จะรวมสินค้าประเภทเดียวกันไว้ด้วยกัน ซึ่งช่วยในการเปรียบเทียบคุณภาพ และราคาจากซัพพลายเออร์หลายราย

สินค้าแฟชั่น และไลฟ์สไตล์ เช่น ผ้าพันคอ กระเป๋า และแว่นตากันแดด จะโดดเด่นในย่านที่ 1 ย่านที่ 2 เน้นสินค้าในครัวเรือนที่ใช้งานได้จริง เช่น กล่องเก็บของ เครื่องครัว และของใช้ในห้องน้ำที่จำเป็น ย่านที่ 3 ดึงดูดผู้ค้าส่งเครื่องเขียน สมุดโน้ต และอุปกรณ์ปาร์ตี้ เช่น ลูกโป่ง และกระดาษห่อของขวัญ

เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์เสริมมือถือ รวมถึงหูฟังไร้สาย และที่ชาร์จ จะกระจุกตัวอยู่ในย่านที่ 4 ส่วนย่านที่ 5 รองรับธุรกิจที่มองหาสินค้าที่เน้นความทนทาน เช่น คีม ไขควง และเครื่องมือช่างอื่นๆ การแบ่งโซนที่ชัดเจนนี้ ช่วยลดความสับสน และทำให้การซื้อสินค้าจำนวนมาก มีประสิทธิภาพมากขึ้น

การค้นหาซัพพลายเออร์ที่น่าเชื่อถือ

ด้วยจำนวนร้านค้าหลายพันแห่งทั่วตลาดอี้อู คุณภาพของซัพพลายเออร์ จึงมีความแตกต่างกัน ผู้ซื้อ ควรเปรียบเทียบผู้ค้าหลายราย ในหมวดหมู่เดียวกัน ก่อนที่จะตัดสินใจสั่งซื้อล็อตใหญ่ การขอตัวอย่างสินค้า เป็นวิธีปฏิบัติทั่วไป เพื่อตรวจสอบคุณภาพของสินค้า

ซัพพลายเออร์หลายราย มีบริการรับจ้างผลิต (OEM) และบริการผลิตในแบรนด์ของลูกค้า (Private Label) ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อผู้ค้าปลีก ที่ต้องการสร้างแบรนด์ของตนเอง การเจรจายอดสั่งซื้อขั้นต่ำ (MOQs) ยังสามารถนำไปสู่ราคาที่ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อสั่งซื้อสินค้าแฟชั่น หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า

เพื่อหลีกเลี่ยงความล่าช้า ผู้ซื้อมักจะทำงานร่วมกับตัวแทนจัดหาสินค้าในอี้อู (Sourcing Agent) ที่สามารถช่วยตรวจสอบซัพพลายเออร์ จัดการเรื่องการแปลภาษา และบริหารจัดการโลจิสติกส์การขนส่ง ขั้นตอนนี้ มีประโยชน์อย่างยิ่ง เมื่อสั่งซื้อสินค้าที่เป็นที่ต้องการสูง เช่น หูฟังไร้สาย อุปกรณ์จัดปาร์ตี้ หรือผลิตภัณฑ์ตกแต่งบ้าน

การวิเคราะห์ต้นทุน : การจัดหาสินค้าในราคาหลักสิบ

อี้อู (Yiwu) โดดเด่นในฐานะศูนย์กลางระดับโลก ที่จำหน่ายสินค้าจิปาถะ ในต้นทุนต่อหน่วยที่ต่ำมาก ราคามักจะตกลงไปอยู่ในช่วงเพียงไม่กี่บาท เมื่อสั่งซื้อในปริมาณมาก (ซื้อแบบเหมา) ทำให้ที่นี่เป็นแหล่งจัดหาสินค้าหลัก สำหรับสินค้าตามกระแส (Viral) ที่แพร่หลายบนแพลตฟอร์มอย่าง TikTok

ช่วงราคาโดยทั่วไป สำหรับสินค้าตามกระแส

สินค้าตามกระแสส่วนใหญ่ที่มาจากอี้อู (Yiwu) จะมีต้นทุนอยู่ในช่วง 10-50 บาทต่อชิ้น เมื่อสั่งซื้อในปริมาณค้าส่ง สินค้าจำพวกอุปกรณ์เสริมโทรศัพท์มือถือ เครื่องมือเสริมความงามชิ้นเล็กๆ และของใช้จุกจิกแปลกใหม่ (Novelty Gadgets) มักจะอยู่ในช่วงราคาที่ต่ำกว่าในกลุ่มนี้ (เช่น 10-20 บาท)

สินค้ากลุ่มเสื้อผ้า เช่น เสื้อแฟชั่นตามกระแส หรือเครื่องประดับ อาจมีราคาสูงขึ้นมาอีกเล็กน้อย โดยมักจะอยู่ที่ 40-70 บาท ขึ้นอยู่กับเนื้อผ้า และความซับซ้อนของดีไซน์ ถึงกระนั้น ราคานี้ ก็ยังคงต่ำกว่าราคาขายปลีกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นอย่างมาก

หากลองเปรียบเทียบ สินค้าที่อาจขายปลีกในราคา 200-300 บาทในประเทศไทย สามารถหาซื้อได้ในราคาต่ำกว่า 50 บาทที่อี้อู (Yiwu) ส่วนต่างราคาที่กว้างมากนี้เอง ที่ช่วยให้ผู้ขายสามารถทำกำไรได้ ในขณะที่ยังคงตั้งราคาแข่งขันในตลาดออนไลน์ได้

ตัวอย่างช่วงราคาในตลาดอี้อู :

ประเภทสินค้า ต้นทุน Yiwu (บาท) ราคาขายปลีกในไทย (บาท)
ขาตั้งโทรศัพท์ 12-20 150-200
อุปกรณ์แต่งหน้า 15-30 120-180
เครื่องประดับแฟชั่น 25-50 200-300
ประเภทสินค้า : ขาตั้งโทรศัพท์
ต้นทุน Yiwu (บาท) 12-20
ราคาขายปลีกในไทย (บาท) 150-200
ประเภทสินค้า : อุปกรณ์แต่งหน้า
ต้นทุน Yiwu (บาท) 15-30
ราคาขายปลีกในไทย (บาท) 120-180
ประเภทสินค้า : เครื่องประดับแฟชั่น
ต้นทุน Yiwu (บาท) 25-50
ราคาขายปลีกในไทย (บาท) 200-300

ปัจจัยที่ส่งผลต่อต้นทุนในอี้อู (Yiwu)

มีหลายปัจจัย ที่ส่งผลต่อราคาที่ผู้ซื้อต้องจ่ายในตลาดอี้อู ปริมาณการสั่งซื้อ ถือเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด เนื่องจากซัพพลายเออร์ จะลดราคาให้เป็นพิเศษ สำหรับการสั่งซื้อในปริมาณมาก

คุณภาพของวัสดุ ก็ส่งผลให้ต้นทุนแตกต่างกัน สินค้าที่ทำจากพลาสติก มักจะมีราคาถูกกว่า ในขณะที่สินค้าที่มีส่วนประกอบเป็นโลหะ ผ้า หรือชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์จะมีราคาสูงกว่า

ความต้องการตามฤดูกาลก็มีบทบาทเช่นกัน ตัวอย่างเช่น สินค้าที่เกี่ยวกับเทศกาล หรือสินค้าที่กำลังเป็นกระแสใน TikTok อาจมีราคาสูงขึ้นชั่วคราว เนื่องจากยอดสั่งซื้อที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

ผู้ซื้อยังต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายด้านการขนส่ง (Logistics) ด้วย แม้ว่าราคาต่อชิ้นอาจจะแค่หลักสิบบาท แต่ค่าขนส่ง และค่าศุลกากร สามารถทำให้ต้นทุนรวมที่ต้องจ่ายจริง (Landed Cost) สูงขึ้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับสินค้าที่มีน้ำหนักมาก หรือมีขนาดใหญ่

เปรียบเทียบราคาจากอี้อูกับตลาดอื่น

สินค้าจากอี้อู มักจะมีราคาถูกกว่าสินค้าจากแหล่งผลิตอื่นในจีน เช่น กว่างโจว (Guangzhou) หรือเซินเจิ้น (Shenzhen) เนื่องจากอี้อู มีความเชี่ยวชาญด้านสินค้าเบ็ดเตล็ดขนาดเล็ก และการผลิตในปริมาณมหาศาล

ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สินค้านำเข้าจากอี้อู มักจะยังมีราคาถูกกว่าการผลิตภายในประเทศ ตัวอย่างเช่น สินค้าจากอี้อูชิ้นหนึ่งราคา 30 บาท อาจมีต้นทุนสูงถึง 60–80 บาท หากผลิตในประเทศไทย เนื่องจากค่าแรง และค่าวัสดุที่สูงกว่า

เมื่อเปรียบเทียบกับตลาดค้าส่งในฝั่งตะวันตก ความได้เปรียบด้านราคาของอี้อู ก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้น สินค้าชิ้นหนึ่งที่มีต้นทุนไม่ถึง 20 บาทในอี้อู อาจมีราคาสูงเกิน 100 บาท หากสั่งซื้อผ่านตัวแทนจำหน่ายในยุโรป หรือสหรัฐอเมริกา

ช่องว่างด้านราคานี้ จึงเป็นคำอธิบายว่าทำไมผู้ขายบน TikTok จำนวนมากถึงนิยมตลาดอี้อู เพราะช่วยให้พวกเขาสามารถตั้งราคาขายปลีกได้ต่ำ ในขณะที่ยังคงรักษาส่วนต่างกำไรไว้ได้ แม้จะหักค่าขนส่ง และค่าธรรมเนียมแพลตฟอร์มไปแล้วก็ตาม

เคล็ดลับ และกลยุทธ์สำหรับการจัดหาสินค้าจากอี้อู (Yiwu) ให้ประสบความสำเร็จ

ความสำเร็จในการจัดหาสินค้าจากอี้อู (Yiwu) ขึ้นอยู่กับการตรวจสอบคุณภาพสินค้า การสร้างความสัมพันธ์ที่ดี และเป็นธรรมกับซัพพลายเออร์ และการจัดการโลจิสติกส์อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ซื้อที่เตรียมตัวในสามด้านนี้ จะช่วยลดความเสี่ยง และควบคุมต้นทุนได้ดีขึ้น เมื่อต้องหาสินค้าอย่าง แฟชั่นราคาประหยัด (Fast Fashion) อุปกรณ์เสริมมือถือ หรือของตกแต่งบ้าน

การควบคุมคุณภาพ และการตรวจสอบสินค้า

ตลาดอี้อูมีร้านค้า (บูธ) กว่า 75,000 แห่ง และไม่ใช่ซัพพลายเออร์ทุกเจ้า ที่จะรักษามาตรฐานได้เท่ากัน ผู้ซื้อควรยืนยันว่า สินค้าตัวอย่างที่นำมาแสดงนั้น ตรงกับการผลิตจริงในปริมาณมาก สำหรับสินค้าอย่าง หูฟังไร้สาย เครื่องเขียน หรือเครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร การขอตัวอย่างหลายๆ ชิ้นจะช่วยให้เห็นความไม่สอดคล้องกัน ก่อนที่จะสั่งซื้อล็อตใหญ่

การมีเช็กลิสต์ที่เป็นระบบจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น

  • การตรวจสอบซัพพลายเออร์ : ยืนยันใบอนุญาต และใบรับรองต่างๆ (เช่น ISO 9001)
  • การตรวจสอบโรงงาน : ตรวจสอบกำลังการผลิต และความสะอาด
  • การทดสอบตัวอย่าง : ตรวจสอบความทนทาน ความปลอดภัย และความสอดคล้องกับมาตรฐาน สำหรับสินค้าประเภทกระเป๋า หรือคีม
  • การตรวจสอบโดยบุคคลที่สาม : ใช้บริการจากบริษัทตรวจสอบ เช่น SGS หรือ TÜV เพื่อให้ได้รายงานที่เป็นกลาง

ผู้ซื้อ มักประเมินต้นทุนแฝง ที่เกิดจากคุณภาพต่ำไว้ต่ำเกินไป การจัดส่งสินค้าที่ถูกปฏิเสธ เช่น สินค้าสำหรับงานปาร์ตี้ หรืออุปกรณ์เสริมมือถือ อาจทำให้กำไรหายไปทั้งหมด การตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ ระหว่างการผลิต และก่อนการจัดส่ง จะช่วยลดความเสี่ยงเหล่านี้ได้

การเจรจาต่อรองกับซัพพลายเออร์

ซัพพลายเออร์ในอี้อู คาดหวังว่าจะมีการต่อรองราคาอยู่แล้ว แต่การเจรจาที่มีประสิทธิภาพ คือ การสร้างสมดุลระหว่างราคา และความน่าเชื่อถือ การเริ่มต้นโดยมีการค้นคว้าช่วงราคามาล่วงหน้า จะทำให้ผู้ซื้อมีอำนาจต่อรอง การรวบรวมใบเสนอราคาอย่างน้อย 3 เจ้า สำหรับสินค้าเช่น แฟชั่นราคาประหยัด หรือของตกแต่งบ้าน จะช่วยให้ได้ราคาพื้นฐานที่ยุติธรรม

แนวทางสำคัญ ได้แก่

  • สั่งซื้อแบบรวบยอด (เช่น รวมเครื่องเขียนกับเครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร) เพื่อให้ได้ยอดสั่งซื้อขั้นต่ำ (MOQ)
  • เน้นย้ำถึงโอกาสในการสั่งซื้อในอนาคต เพื่อจูงใจให้ได้ราคาที่ดีขึ้น
  • เจรจาเงื่อนไขอื่นๆ นอกเหนือจากราคาต่อหน่วย เช่น กำหนดการส่งมอบ และโครงสร้างการชำระเงิน

ความเข้าใจในวัฒนธรรมเป็นเรื่องสำคัญ การเคารพธรรมเนียมปฏิบัติ การเรียกชื่อซัพพลายเออร์ และการแสดงความสนใจ ที่จะทำธุรกิจกันในระยะยาว จะช่วยสร้างความไว้วางใจ การใช้กลยุทธ์ที่ก้าวร้าวเกินไป อาจทำลายความสัมพันธ์ ในขณะที่การสื่อสารที่สม่ำเสมอ และการชำระเงินตรงเวลา มักจะส่งผลให้ได้รับการบริการที่ดีกว่า และได้สิทธิ์เข้าถึงสินค้าใหม่ๆ ในอี้อูก่อนใคร

ข้อควรพิจารณาด้านการขนส่ง และโลจิสติกส์

การตัดสินใจด้านการขนส่ง ส่งผลกระทบ ทั้งต้นทุน และความเร็วในการจัดส่ง การขนส่งทางทะเล (Sea Freight) ยังคงเป็นวิธีที่ประหยัดที่สุด สำหรับสินค้าจำนวนมาก เช่น ของตกแต่งบ้าน หรือสินค้าสำหรับงานปาร์ตี้ ในขณะที่การขนส่งทางอากาศ (Air Freight) เหมาะกับการจัดส่งที่เร่งด่วน และมีขนาดเล็ก เช่น หูฟังไร้สาย หรืออุปกรณ์เสริมมือถือ ส่วนการขนส่งทางรถไฟ (Rail Freight) ถือเป็นทางเลือกกลางๆ สำหรับผู้ซื้อในแถบยุโรป

Incoterms (เงื่อนไขการค้าระหว่างประเทศ) ที่ใช้กันทั่วไปในอี้อู ได้แก่

เทอม (Term) ความรับผิดชอบ (Responsibility) หมายเหตุ (Notes)
FOB ซัพพลายเออร์รับผิดชอบจนถึงท่าเรือต้นทาง ตัวเลือกที่สมดุล
CIF ซัพพลายเออร์รับผิดชอบค่าขนส่ง + ประกัน ต้นทุนล่วงหน้าที่สูงกว่า
EXW ผู้ซื้อจัดการโลจิสติกส์ทั้งหมด ควบคุมได้สูงสุด
เทอม (Term) : FOB
ความรับผิดชอบ ซัพพลายเออร์รับผิดชอบจนถึงท่าเรือต้นทาง
หมายเหตุ ตัวเลือกที่สมดุล
เทอม (Term) : CIF
ความรับผิดชอบ ซัพพลายเออร์รับผิดชอบค่าขนส่ง + ประกัน
หมายเหตุ ต้นทุนล่วงหน้าที่สูงกว่า
เทอม (Term) : EXW
ความรับผิดชอบ ผู้ซื้อจัดการโลจิสติกส์ทั้งหมด
หมายเหตุ ควบคุมได้สูงสุด

กลยุทธ์การประหยัดต้นทุนประกอบ ด้วยการรวบรวมคำสั่งซื้อ (Order) จากซัพพลายเออร์หลายราย มาไว้ในตู้คอนเทนเนอร์เดียว, การขนส่งในช่วงนอกฤดู ที่มีการใช้งานน้อย (Off-peak seasons), และการใช้ตัวแทนรับจัดการขนส่งสินค้า (Freight Forwarder) เพื่อช่วยดำเนินพิธีการศุลกากร นอกจากนี้ การบรรจุหีบห่อที่เหมาะสม และการจัดสรรพื้นที่ในตู้คอนเทนเนอร์ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ยังช่วยลดความเสียหาย และพื้นที่ที่สูญเปล่า ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เมื่อต้องจัดหาสินค้าที่เปราะบางแตกหักง่าย เช่น เครื่องถ้วยชาม หรือสินค้าที่สั่งคราวละมากๆ อย่างเครื่องเขียน

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ